วิชาการแปลนั้นนักศึกษาทุกคนจะต้องแข็งแรงทั้งภาษาไป และภาษามา หมายถึงว่านักศึกษาต้องมีความรู้ทั้งในภาษาที่ตัวเองใช้อยู่ และภาษาที่ตัวเองกำลังศึกษาอยู่ด้วยนั่นคือ ภาษาอังกฤษนั่นเอง
สัปดาห์นี้อาจารย์สอนในหัวข้อเรื่อง If Clause หรือ Condition Clause หมายถึงประโยคที่แสดงหรือกำหนดเงื่อนไข ขึ้นในเวลาที่่ต่างๆ กัน แต่เวลาที่พูดนั้นเกิดขึ้นในขณะปัจจุบันรูปกริยาที่ต่างกันใน If-clauseเป็นเพียงตัวบ่งให้ทราบว่าเป็น เงื่อนไขแบบใดเท่านั้น
ตัวอย่าง ถ้าฉันขึ้นรถเมล์ไม่ทันบ่ายนี้ ฉันก็จะเรียกรถแท็กซี่แทน
If I miss the bus this afternoon, I will catch/get a taxi instead.
ในประโยคนี้จะประกอบด้วย 2 ประโยคด้วยกันคือ
ประโยคหน้าจะเป็น Dependent clause คืออนุประโยคที่อยู่โดดเดี่ยวไม่ได้
ประโยคหลังจะเป็น Independent clause คืออนุประโยคที่โดดเดียวได้
If clause จะมีการใช้ดังนี้
1. Present/real(possible) ในปัจจุบันหรือเป็นไปได้
มีโครงสร้างคือ If + V1,will,can,may,should,must+V1
ตัวอย่าง ถ้าวันนี้ฝนตก ฉันคงไปหาเธอไม่ได้ If it is rainny, I can not visit you today.
2. Present/unreal(impossible) ตรงกันข้ามกับปัจจุบัน
มีโครงสร้างคือ If + V2,would,could,should,might+V1
ตัวอย่าง ไม่มีใครบอกฉันเลยว่าคุณเข้าโรงพยาบาล ถ้าฉันรู้ฉันคงไปเยี่ยมแล้วหละ No one told me that you were in hospital, if I had known, I would have visited you.
3. Past/real
มีโครงสร้างคือ If + had + V3 + modality + have + V3
ตัวอย่าง ถ้าฉันเข้าใจไวยากรณ์ ฉันคงสอบผ่านแล้วหละ If I had understood the grammar, I would have passed the test.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น